ส้มเป็นผลไม้ที่มากคุณประโยชน์ ทุกส่วนของส้มเกือบจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ผล ใบ เปลือก ต้น ตัวอย่างเช่นผล เป็นผลไม้กินสด เอาไว้กินยามว่าง หรือเอาไว้เป็นของไว้ในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในผลไม้มงคล เปลือกส้มก็สามารถนำมาเชื่อมทำเป็นแยมรสส้มได้ ไว้กินกับขนมปังแซนวินได้ ส้้มบางชนิดมีสรรพคุณทางยาก็เป็นส่วนหนึ่งของยาแผนโบราณได้เช่นกัน
ส้ม เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็กหลายชนิด เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ สกุล Citrus วงศ์ Rutaceae มีด้วยกันนับร้อยชนิด เติบโตกระจายอยู่ทั่วโลก โดยมากจะมีน้ำมันหอมระเหยในใบ ดอก และผล และมีกลิ่นฉุน หากนำใบขึ้นส่องกับแสงแดด จะเห็นจุดเล็กๆ เต็มไปหมด ซึ่งจุดเหล่านั้นก็คือแหล่งน้ำมันนั่นเอง ส้มหลายชนิดรับประทานได้ ผลมีรสเปรี้ยวหรือหวาน มักจะมีแคลเซียม โปแทสเซียม วิตามินเอ และ วิตามินซี มากเป็นพิเศษ ถ้าผลไม้จำพวกนี้มี มะ อยู่หน้า ต้องตัดคำ ส้ม ออก เช่น ส้มมะนาว ส้มมะกรูด เป็น มะนาว มะกรูด
ปัจจุบันนี้ มีการใช้เทคนิคในการระบุเอกลักษณ์ด้วยดีเอ็นเอ (DNA) และมีการเสนอว่าอาจจะมีชนิดพื้นฐานของส้มอย่างกว้างๆ 4 ชนิด ด้วยกัน คือ
- C. halimii - พบทางภาคใต้ของไทย และตะวันตกของมาเลเซีย อาจเป็นชนิดต้นกำเนิดของส้ม Poncirus และ Fortunella
- C. medica - ส้มโอมือ หรือส้มมือ อาจเป็นต้นกำเนิดของมะนาว หรือเลมอน (lemon)
- C. reticulata - อาจเป็นต้นกำเนิดของส้มจำพวกส้มเขียวหวานทั้งหลาย
- C. maxima (หรือ C. grandis) - ส้มโอ น่าจะเป็นต้นกำเนิดของส้มในปัจจุบันบางชนิดเช่นกัน
ส้ม...กินอย่างไรให้เหมาะ
ส้มไม่ได้มีประโยชน์สำหรับผู้ใหญ่เพียงอย่างเดียวนะคะ เพราะส้มยังมีประโยชน์กับเจ้าตัวเล็กของคุณอีกด้วย
สำหรับพ่อแม่ที่อยากให้เจ้าตัวเล็กดื่มน้ำส้มคั้น ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าต้องให้หลัง 6 เดือน เพราะเป็นช่วงที่สามารถให้อาหารเสริมกับเจ้าตัวเล็กได้แล้ว ที่สำคัญการให้น้ำส้มกับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นวัยใดก็ตามควรผสมน้ำในปริมาณครึ่งต่อครึ่ง เนื่องจากส้มจะมีรสชาติเข้มข้นการให้น้ำส้มลูกโดยไม่ผสมอะไรเลย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบดูดซึมของลูกได้ค่ะ
พอลูกโตขึ้นจึงค่อยๆ ลดปริมาณน้ำลง จนถึงอายุ 5 ขวบ แล้วค่อยให้น้ำส้มอย่างเดียว เนื่องจากน้ำส้มมีรสหวานมาก การผสมน้ำจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เจ้าตัวเล็กไม่ติดหวานตั้งแต่ตัวน้อยๆ ค่ะ
สำหรับผู้ที่เป็นโรคไตและเบาหวาน ถ้าคิดจะกินส้ม ขอบอกไว้ก่อนนะคะ ว่าควรกินด้วยความระมัดระวัง เพราะส้มเป็นผลไม้ที่ให้โปแตสเซียมและน้ำตาลสูง จึงควรกินเป็นผลเพราะจะมีกากใยดีกว่าเป็นน้ำส้มคั้น เพราะน้ำส้มคั้น 1 แก้วต้องใช้ส้มหลายผล
ส้ม...การเลือกซื้อ
การเลือกซื้อส้มที่มีรสหวาน รสชาติอร่อยนั้น ควรเลือกที่มีผิวเรียบเนียน เปลือกบาง เช่นเดียวกับมะนาวที่ผิวเรียบเนียน เปลือกบางก็จะให้น้ำเยอะ ถ้าเป็นส้มเขียวหวานก็จะหวานมาก ยกเว้นมะกรูดค่ะ เพราะธรรมชาติของมะกรูดผิวจะขรุขระไม่เสมอกันอยู่แล้ว
ทราบคุณประโยชน์ที่แตกต่างของส้มแต่ละชนิด รวมทั้งการเลือกซื้อเพื่อให้ได้ส้มที่คุณภาพดีกันแล้ว ผลไม้ตั้งโต๊ะของครอบครัวมื้อต่อไปต้องไม่พลาดส้มแน่นอนใช่มั้ยคะ
สรรพคุณของส้ม
- ดื่มแก้กระหาย เพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
- ส้ม มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระมากมาย จึงช่วยในการชะลอวัย
- ส้มมีคุณสมบัติในการช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ช่วยลดเลือนหรือชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้
- ส้ม ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
- ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีไม่แห้งกร้าน
- ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดโรคต้อกระจก เพราะส้มมีวิตามินซี
- ช่วยเสริมสร้างกระดูดให้แข็งแรง ด้วยแคลเซียม และวิตามินดีจากส้ม
- การกินส้มก็ช่วยลดสภาวะความเครียดได้เหมือนกันนะ
- ส้มช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยในการขับถ่าย เพราะส้มมีกากใยสูง
- ช่วยลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งที่ปาก กล่องเสียง และที่กระเพาะ
- ช่วยป้องกันการเป็นอัมพาตหากกินผลไม้ตระกูลส้มเป็นประจำ
- สารฟลาโวนอยด์ในส้ม จะช่วยป้องกันการอักเสบและเลือดจับตัวกันเป็นก้อน
- ในส้มมีสารเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยชะลอความเสื่อมเส้นผม เล็บ และผิวของคุณ และช่วยให้ผนังหลอดเลือดเส้นเลือดฝอยแข็งแรง
- ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายของเรา
- ช่วยในการสมานแผลต่าง ๆ เช่น แผลไฟไหม้ หรือแผลหลังผ่าตัดให้หายดียิ่งขึ้น
- เปลือกส้มจะมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ
- เปลือกส้ม มีสารช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยกรองสารพิษในตับได้ด้วย
- การเสิร์ฟเปลือกส้มคู่กับอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ จะช่วยในการย่อยอาหารที่มีไขมันสูงได้
- เปลือกส้มมีฤทธิ์ในการช่วยทำลายเซลล์มะเร็งได้
- เปลือกส้มที่แห้งแล้วเมื่อนำไปจุดไฟจะมีกลิ่นหอมและมีคุณสมบัติในการไล่ยุง
- ประโยชน์ของส้มจากน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้มก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและช่วยกระตุ้นระบบประสาทได้ดี
เมนูส้ม ส้มขอเสนอส้มย่าง
ส้มย่าง คือ การนำส้มไปอบหรือย่าง นกระทั่งเปลือกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีไหม้ ซึ่งเมื่อกินแล้วจะได้คุณค่าสารอาหารมากกว่าการกินส้มปกติ หลายๆ คนรวมถึงคนญี่ปุ่นเองอาจจะไม่คุ้นเคยกับส้มย่าง แต่ในชุมชนที่เป็นแหล่งปลูกส้มใหญ่ๆ ในจังหวัดดวาคายามะและเอฮิเมะมีการย่างส้มในฤดูหนาวเป็นเรื่องปกติ และในจังหวัดอากิตะในภูมิภาคโทโฮคุเองก็นิยมกินส้มย่างกันอย่างแพร่หลายด้วย
วิธีทำส้มย่าง
วิธีทำส้มย่างก็ง่ายมากๆ เพียงนำส้มทั้งผลเข้าเตาอบแล้วอบประมาณ 8-9 นาที แต่เวลาที่อบอาจจะต่างกันไปตามเตาอบแต่ละเครื่อง ดังนั้นขอให้สังเกตดูเปลือกส้มให้ดี ถ้าเปลือกเป็นสีดำไหม้ก็แปลว่าพร้อมรับประทานได้
สำหรับใครที่ไม่มีเตาอบก็ไม่เป็นไร สามารถใช้วิธีย่างในกระทะแทนได้เช่นกัน โดยใช้หลักการเดียวกันคือย่างจนกว่าเปลือกจะเริ่มเป็นสีดำไหม้ๆ แค่นี้ก็ได้ส้มย่างมาแล้ว
ข้อดีของส้มย่าง
รสชาติหวานขึ้น
ส้มที่ย่างแล้วจะมีรสหวานกว่าส้มธรรมดา เพราะการย่างจะทำให้รสเปรี้ยวในส้มลดลงไปแล้วเพิ่มรสหวานขึ้นมา ถึงส้มจะหวานขึ้นแต่แคลอรี่ไม่เพิ่มตามไปด้วยนะจ๊ะ ใครไดเอทอยู่ก็ร้องเฮได้เลย มีขนมหวานแคลอรี่เบาๆ ให้กินแล้ว นอกจากนี้รสสัมผัสของส้มก็กรุบๆ เคี้ยวแล้วรู้สึกดีสุดๆ
คุณค่าอาหารสูงขึ้น
นอกจากจะหวานขึ้นแล้ว ยังมีคุณค่าอาหารสูงขึ้นด้วย เพราะว่าเปลือกส้มเป็นที่รวมของวิตามินซีและแคโรทีนอยด์ที่พบในผักผลไม้สีส้มเหลือง ซึ่งเมื่อให้ความร้อนจะทำให้สารอาหารที่เปลือกซึมเข้าไปในเนื้อส้มและทำให้ส้มย่างมีสารอาหารมากกว่าส้มปกตินั่นเอง วิตามินซีที่มีในเนื้อส้มอยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอีก ดังนั้นจะกินส้มย่างแทนวิตามินซีเม็ดป้องกันหวัดเลยก็ได้นะ
คุณประโยชน์คุณประโยชน์ของส้มย่างยังไม่หมดแค่นี้ เพราะส้มย่างมีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวให้เปร่งปลั่งแลดูอ่อนวัย และช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นซึ่งจะป้องกันอาการหนาวสั่นง่ายที่เป็นมากในผู้หญิงจากระบบไหลเวียนเลือดที่ไม่ดี