วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559

ลูกหม่อนมากคุณประโยชน์

Mulberry


มัลเบอร์รี่ (Mulberry) หรือ หม่อน (ภาคอีสานเรียกว่า “มอน”) ที่เรารู้จักกันจะมีอยู่ 2 ชนิด คือ หม่อนหรือมัลเบอร์รี่ชนิดที่ปลูกไว้เพื่อรับประทานผลเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีชื่อสามัญว่า Black Mulberry และมีชื่อวิทยาศาสตร์ Morus nigra L. จัดอยู่ในวงศ์ MORACEAE ผลสุกจะเป็นสีดำมีรสเปรี้ยวอมหวาน นิยมนำมารับประทานและนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ


ส่วนอีกชนิด คือ หม่อนที่ปลูกไว้เพื่อการเลี้ยงไหมเป็นหลัก มีชื่อสามัญว่า White Mulberry และมีชื่อวิทยาศาสตร์ Morus alba L. ชนิดนี้ใบจะมีขนาดใหญ่กว่าและออกใบมากกว่า ใช้เป็นอาหารเลี้ยงไหมได้ดี แต่ผลจะมีขนาดเล็กกว่า เมื่อสุกจะมีรสเปรี้ยว ใช้รับประทานได้เช่นกัน แต่ไม่เป็นที่นิยมเท่าชนิดแรก และยังมีชนิดอื่น ๆ อีกหลายชนิดครับ เช่น Red Mulberry ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Morus rubra L. เป็นต้น
Mulberry (มัลเบอร์รี่) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ลูกหม่อน เป็นไม้ยืนต้นตระกูลเบอรรี่ เช่นเดียวกับบลูเบอรรี่ และราสเบอรี่ เมื่อดิบจะมีสีเขียว ห่ามจะมีสีแดงให้รสเปรี้ยว ส่วน ผลสุกจะมีสีม่วงดำให้รสหวานจัด อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ชื่อ Anthocyanin เป็นสารสีม่วงแดง ช่วยป้องกันโรคหัวใจ โรคมะเร็ง และ Resveratrol สูงกว่า Superfruits ชนิดอื่น ถึง 79% ช่วยชะลอความแก่ ลดริ้วรอย เป็นพืชพื้นเมืองที่พบได้ในประเทศจีน เกือบทุกส่วนของพืชชนิดนี้อุดมด้วยประโยชน์ 

      เมื่อนำผล มัลเบอร์รี่ มาทำเครื่องดื่มและอาหารแล้วรสชาติสีสันและคุณค่าทางอาหาร ไม่ด้อยไปกว่า ผลบลูเบอรี่ ผลราสพ์เบอรี่ และ แบล็คเบอรี่ ผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาสูงมาก ดังนั้น อาหารที่ใช้ผลไม้ดังกล่าวเป็นส่วนผสมจึงสามารถใช้ผลหม่อนทดแทนได้ทั้งหมด เช่น เค้ก โดนัท พาย และไอศกรีม ฯลฯ
       สรรพคุณของมัลเบอร์รี่

  • ผลมัลเบอร์รี่มีรสเปรี้ยวหวานเย็น มีสรรพคุณช่วยดับร้อน คายความร้อนรุ่ม ช่วยขับลมร้อน ช่วยบรรเทาอากากระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอ และทำให้ร่างกายชุ่มชื่น
  • ผลนำมาต้มกับน้ำหรือเชื่อมกินเป็นยาแก้ธาตุไม่ปกติ
  • ผลมีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ
  • มัลเบอร์รี่มีสรรพคุณช่วยทำให้เส้นประสาทตาดี ทำให้สายตาแจ่มใส หูตาสว่าง ร่างกายสุขสบาย
  • ผลมีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องผูก และยังมีเมล็ดที่ช่วยเพิ่มใยอาหาร
  • ผลนำมาต้มกับน้ำหรือเชื่อมกินเป็นยาระบายอ่อน ๆ
  • ผลมัลเบอร์รี่มีฤทธิ์เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อตับและไต มีสรรพคุณช่วยบำรุงตับและไต ช่วยรักษาตับและไตพร่อง
  • ช่วยแก้ข้อมูลข้อเท้าเกร็ง แก้ไขข้อ โรคปวดข้อ
  • ช่วยบำรุงเส้นผมให้ดกดำ ป้องกันผมหงอกก่อนวัย
  • ในประเทศจีนจะใช้ผล กิ่งอ่อน เปลือกราก และใบเป็นยาบำรุงกำลัง รักษาโรคเกี่ยวกับทรวงอก แก้ไอ หืด วัณโรคปอด การสะสมน้ำในร่างกายผิดปกติ ขับปัสสาวะ และรักษาโรคปวดข้อ
  • หมายเหตุ : การใช้ตาม  ผลแห้งให้ใช้ครั้งละ 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน หรือใช้เข้าตำรับยาตามตามต้องการ (ตามตำรับยาระบุให้ใช้ผลหม่อนหรือผลมัลเบอร์รี่ ชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Morus alba L.)






ประโยชน์ของมัลเบอร์รี่

  • มัลเบอร์รี่มีสาร Anthocyanins ในปริมาณมาก โดยสารชนิดนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ต่อต้านอาการขาดเลือดในสมอง ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เป็นต้น[5],[6]
  • มัลเบอร์รี่มีสาร Deoxynojirimycin ที่เป็นตัวช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้[5],[6]
  • มัลเบอร์รี่มีกาบา (GABA) ที่เป็นตัวช่วยลดความโลหิต[5],[6]
  • มัลเบอร์รี่มีสาร Phytosterol ที่สามารถช่วยลระดับคอเลสเตอรอลได้[5],[6]
  • มัลเบอร์รี่มีสาร Polyphenols ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์กับร่างกาย[5],[6]
  • สารประกอบฟีนอลในมีอยู่ในผลมัลเบอร์รี่ สามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านอาการอักเสบ อาการเส้นเลือดโป่งพอง และยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้[5],[6]
  • สาร Quercetin และสาร Kaempferol ที่มีอยู่ในผลมัลเบอร์รี่เป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิต ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง เลือดหมุนเวียนดี ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด ป้องกันการดูดซึมของน้ำตาลในลำไส้เล็ก ยับยั้งการเกิดสารก่อมะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยยืดอายุเม็ดเลือดขาว และลดอาการแพ้ต่าง ๆ
  • มีวิตามินเอที่ช่วยในด้านการบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดต้อกระจก ช่วยบำรุงเหงือกและฟัน บำรุงผิวพรรณ และลดการอักเสบของสิว
  • วิตามินบี6 ในผลมัลเบอร์รี่ มีประโยชน์ในด้านการบำรุงเลือด ตับ และไต ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน และลดการเกิดสิว
  • มัลเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ที่เป็นตัวช่วยป้องกันหวัด ภูมิแพ้ วัณโรค โรคปอด เชื้อไวรัส และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
  • มัลเบอร์รี่กรดโฟลิกสูง ซึ่งกรดโฟลิกนั้นสามารถช่วยทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเจริญได้เต็มที่ ทำให้เซลล์ประสาทไขสันหลังและเซลล์สมองเจริญเป็นปกติ และช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง[5],
  • นอกจากนี้ลูกมัลเบอร์รี่ยังกรดอะมิโน วิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี แคลเซียม ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แมกนีเซียม โซเดียม สังกะสี ฯลฯ
  • บางรายงานระบุว่ามัลเบอร์รี่สามารถช่วยแก้อาการเมาค้าง และช่วยผ่อนคลายความเครียดได้
  • ผลมัลเบอร์รี่สามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารหรือผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด เช่น แยมหม่อน เยลลี่หม่อน ขนมพาย ข้าวเกรียบ ไอศกรีมหม่อน หม่อนแช่อิ่ม หม่อนอบแห้ง ลูกอมหม่อน น้ำหม่อน ไวน์หม่อน เป็นต้น


คุณค่าทางโภชชนาการของมัลเบอร์รี่ ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 43 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 9.8 กรัม
น้ำตาล 8.1 กรัม
ใยอาหาร 1.7 กรัม
ไขมัน 0.39 กรัม
โปรตีน 1.44 กรัมMulberry
เถ้า 0.69 กรัม
วิตามินเอ 25 หน่วยสากล
เบต้าแคโรทีน 9 ไมโครกรัม
ลูทีน และ ซีแซนทีน 136 ไมโครกรัม
วิตามินบี1 0.029 มิลลิกรัม (3%)
วิตามินบี2 0.101 มิลลิกรัม (8%)
วิตามินบี3 0.62 มิลลิกรัม (4%)
วิตามินบี6 0.05 มิลลิกรัม (4%)
วิตามินบี9 6 ไมโครกรัม (2%)
วิตามินซี 36.4 มิลลิกรัม (44%)
วิตามินอี 0.87 มิลลิกรัม
วิตามินเค 7.8 ไมโครกรัม
โคลีน 12.3 มิลลิกรัม (3%)
แคลเซียม 39 มิลลิกรัม (4%)
ธาตุเหล็ก 1.85 มิลลิกรัม (14%)
แมกนีเซียม 18 มิลลิกรัม (5%)
ฟอสฟอรัส 38 มิลลิกรัม (5%)
โพแทสเซียม 194 มิลลิกรัม (4%)
โซเดียม 10 มิลลิกรัม (1%)
สังกะสี 0.12 มิลลิกรัม (1%)
ทองแดง 0.06 มิลลิกรัม
ซีลีเนียม 0.6 ไมโครกรัม
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

มัลเบอร์รี่ ผลไม้ลูกเล็กเปี่ยมประโยชน์ | เดลินิวส์
„มัลเบอร์รี่ ผลไม้ลูกเล็กเปี่ยมประโยชน์ ลูกหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่ ผลไม้ลูกเล็กๆ แต่เปี่ยมด้วยประโยชน์ วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2557 เวลา 11:52 น. จากกระแสการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ผัก ผลไม้ที่มีสีสันต่าง ๆ ตามธรรมชาติ จัดเป็นกลุ่มที่ถูกจับตามอง และนำมารับประทานเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์ หนึ่งในผลไม้กลุ่มสีม่วงแดง ที่มาแรง และราคาก็ไม่แพงนั่นก็คือ ลูกหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่ (Mulberry) บทความสุขภาพประจำวันศุกร์สุดท้ายปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ จึงขอนำประโยชน์ดี ๆ ของลูกหม่อน ผลไม้เล็ก ๆ แต่แสนจะมีประโยชน์มาฝากคุณผู้อ่านเดลินิวส์ออนไลน์กันนะคะ หม่อน หรือ มัลเบอร์รี เป็นพืชอาหารตามธรรมชาติชนิดเดียวของหนอนไหม และเป็นหัวใจสำคัญของการประกอบอาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ซึ่งลูกหม่อน เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อาทิ กรดโฟลิก ซึ่งพบว่า ทารกที่เกิดจากมารดาที่ขาดกรดโฟลิก มีความเสี่ยงที่จะพิการทางสมองและประสาท ไขสันหลัง นอกจากนั้นยังพบสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโธไชยานิน เควอซิติน ที่มีส่วนลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ตำรับยาโบราณมีการใช้ผลหม่อนต้มบริโภคทั้งเนื้อและน้ำแก้โรคไขข้ออักเสบ ท้องผูก โลหิตจาง และขับเสมหะ มีผลงานวิจัยหลายสถาบันในประเทศไทย มหาวิทยยาลัยทางการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และงานวิจัยหลายประเทศของลูกหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่“




อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/article/283964

1 ความคิดเห็น:

  1. สนใจอยากจะปลูกหม่อนไว้ทานผล ขอแนะนำหม่อนพันธุ์เชียงใหม่60 ลูกใหญ่ รสชาติเยี่ยม ติดผลดก ปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย อยากจะได้กิ่งพันธุ์แต่ไม่รู้ว่าจะหาซื้อที่ไหน ทางสวนของเรามีจำหน่ายในราคากันเอง เพียงกิ่งละ10บาท สนใจโทรหา ตุ๊ ภูชี้ฟ้า 063-7157573,089-6803543 id.line. permsak08 หรือหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ fb.ก้าวกล้า บุญคำตัน เพจ ต้นหม่อน ครับผม

    ตอบลบ