เสียเหงื่อ ให้กีฬา ดีกว่าเสียน้ำตาให้ผู้ชาย
เสียเหงื่อ ให้กีฬา ดีกว่า เสียนำ้ตาให้ยาเสพติด
กีฬา นั้นเป็นกิจกรรมหรือการเล่นเพื่อความสนุกเพลิดเพลินหรือเพื่อความแข็งแรงของร่างกาย หรือเพื่อผ่อนคลายความเคร่งเครียดทางจิต รวมไปถึงกิจกรรมปกติหรือทักษะที่อยู่ภายใต้กติกาซึ่งถูกกำหนดโดยความเห็นที่ตรงกันโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการพักผ่อน การแข่งขัน ความเพลิดเพลิน ความสำเร็จ การพัฒนาของทักษะ หรือหลายสิ่งรวมกัน กีฬาเป็นกิจกรรมที่ควบคู่กับการแข่งขัน และระบบคะแนน
ต้องยอมรับว่าคนบนโลกนี้ย่อมมีกีฬาที่ตนเองชอบและโปรดปรานในใจกันทุกคน เพราะกีฬาบนโลกนี้ก็มีหลากหลายชนิดเหมือนกัน ทั้งที่เป็นกีฬาสากลและเป็นกีฬาประจำท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งเมื่อกล่าวถึงความได้รับความนิยมย่อมก็ต้องเป็นกีฬาสากลที่คนส่วนใหญ่รู้จักเป็นอย่างดี
The popular sport in the world.
1. ฟุตบอล (Soccer)
คนประมาณ 4 พันล้านคน รักกีฬานี้ และการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์มีผู้ชมสูงสุดทุกปีฟุตบอล หรือ ซอกเกอร์ เป็นกีฬาประเภททีมที่เล่นระหว่างสองทีมโดยแต่ละทีมมีผู้เล่น11คน โดยใช้ลูกบอล เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายว่าเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก
โดยจะเล่นในสนามหญ้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือ สนามหญ้าเทียม โดยมีประตูอยู่กึ่งกลางที่ปลายสนามทั้งสองฝั่ง เป้าหมายคือทำคะแนนโดยพาลูกฟุตบอลให้เข้าไปยังประตูของฝ่ายตรงข้าม ในการเล่นทั่วไปผู้รักษาประตูจะเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถใช้มือหรือแขนกับลูกฟุตบอลได้ ส่วนผู้เล่นอื่นๆจะใช้เท้าในการเตะลูกฟุตบอลไปยังตำแหน่งที่ต้องการ บางครั้งอาจใช้ลำตัว หรือ ศีรษะ เพื่อสกัดลูกฟุตบอลที่ลอยอยู่กลางอากาศ โดยทีมที่พาลูกฟุตบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะ ถ้าคะแนนเท่ากันให้ถือว่าเสมอ แต่ในบางเกมที่เสมอกันในช่วงเวลาปกติแล้วต้องการหาผู้ชนะจึงต้องมีการต่อเวลาพิเศษ และ/หรือยิงลูกโทษขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของรายการแข่งขันนั้นๆ
โดยกฎกติกาการเล่นสมัยใหม่จะถูกรวบรวมขึ้นในประเทศอังกฤษ โดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ในปีพ.ศ. 2406 ได้กำเนิดLaws of the Gameเพื่อเป็นแนวทางกติกาการเล่นในปัจจุบัน ฟุตบอลในระดับนานาชาติจะถูกวางระเบียบโดยฟีฟ่า ซึ่งรายการแข่งขันที่มีเกียรติสูงสุดในระดับนานาชาติคือการแข่งขันฟุตบอลโลกซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี
2. วอลเลย์บอล (Volleyball)
คนทั้งเล่น หรือดู มากกว่า 900 ล้านคน วอลเลย์บอลชายหาดเป็นที่นิยมมาก และเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ผิวเป็นสีแทนวอลเลย์บอล หรือตามคำออกเสียง วอลลีย์บอล เป็นกีฬาที่แข่งขันกันระหว่าง 2 ทีม ทีมละ 6 คน รวมตัวสำรอง 1 คน โดยแบ่งเขตจากกันด้วยเน็ตสูง การทำคะแนนจากลูกบอลที่ตกในเขตแดนของฝ่ายตรงกันข้าม
3. บาสเกตบอล (Basketball)
เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น และถ้าคุณตัวสูงก็จะได้เปรียบ แต่ก็ไม่จำเป็นและบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่เล่นในร่มเป็นหลัก สนามที่ใช้เล่นมีขนาดค่อนข้างเล็ก คะแนนจะได้จากการโยนลูกเข้าห่วงจากด้านบน (ชู้ต, shoot) ทีมที่มีคะแนนมากกว่าในตอนจบเกมจะเป็นฝ่ายชนะ สามารถนำพาลูกโดยการกระเด้งกับพื้น (เลี้ยงลูก, dribble) หรือส่งลูกกันระหว่างเพื่อนร่วมทีม เกมจะห้ามการกระทบกระแทกที่ทำให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ (ฟาวล์, foul) และมีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการครองบอล
4. รักบี้ (Rugby)
รักบี้เป็นที่นิยมมากในอังกฤษ และเป็นหนึ่งในกีฬาหนัก (แรง)ที่สุด ในโลก ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง เป็นกีฬาชนิดหนึ่งถือกำเนิดขึ้นจากโรงเรียนรักบี้ (Rugby School) ในเมืองรักบี้ ในเขตวอร์วิกเชียร์ ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นจาก ในปี ค.ศ. 1826 ขณะนั้นเป็นการแข่งขันฟุตบอล ภายในของโรงเรียนรักบี้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองรักบี้ ประเทศอังกฤษ ผู้เล่นคนหนึ่งชื่อ วิลเลี่ยม เวบบ์ เอลลิส (William Webb Ellis) ได้ทำผิดกติกาการแข่งขันที่วางไว้ โดยวิ่งอุ้มลูกบอลซึ่งตัวเขาเองไม่ได้เป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู และได้วิ่งอุ้มลูกบอลไปจนถึงเส้นประตูฝ่ายตรงข้าม เขาจะจงใจหรือไม่ก็ตามแต่ แต่การเล่นที่นอกลู่นอกทางของเขาได้เป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลาย ในหมู่ผู้เล่นและผู้ดูจนแพร่กระจายไปตามโรงเรียนต่างๆในอังกฤษ โดยเฉพาะในหมู่นักเรียนของโรงเรียนเคมบริดจ์ ได้นำเอาวิธีการเล่นของ นายอีลลีส ไปจัดการแข่งขันโดยเรียกชื่อเกมชนิดใหม่นี้ว่า รักบี้เกมส์ (Rugby Games) ภายหลังจากนั้นก็เป็นที่นิยมเล่นกันมากขึ้น ทั้งได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขการเล่นเรื่อยมาในประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1823 จึงถือได้ว่า รักบี้ฟุตบอลปกติอาจทำแต้มด้วยการวางทรัยหรือเตะ
5. กีฬาทางน้ำ (Water Sports)
กีฬาดำน้ำ เจ็ทสกี และอื่น ๆ เพราะเป็นกีฬาที่สนุกสนานและน่าตื่นเต้น
6. เทนนิส (Tennis)
หลายคนรู้สึกว่าเทนนิสน่าเบื่อมากในการดู แต่คน 1 พันล้านคน ชอบดูการแข่งขันเช่น วิมเบิลดัน และ French Open ถือเป็นกีฬาของผู้ดี และสง่างาม จึงเป็นที่นิยมในประเทศอเมริกา และยุโรปเทนนิส (Tennis) เป็นกีฬาที่เล่นในร่มหรือกลางแจ้ง แบ่งเป็น 2 ฝ่ายแข่งกัน โดยมีผู้เล่นในประเภทเดี่ยวฝ่ายละ 1 คน และผู้เล่นในประเภทคู่ฝ่ายละ 2 คน ใช้ไม้เทนนิสตีส่งลูกไปมาเหนือตาข่ายภายในเขตที่กำหนด โดยพยายามตีลูกให้ลงในแดนคู่แข่ง จนคู่แข่งไม่สามารถตีลูกกลับมาลงในแดนของเราได้
เทนนิสเป็นเกมกีฬาชนิดหนึ่งซึ่งใช้ไม้แร็กเก็ต ถือกำเนิดในยุโรปช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ช่วงแรกๆนั้นเทนนิสได้แพร่ขยายไปยังกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นสูง แท้จริงแล้วเทนนิสเป็นกีฬาสากลและเป็นเกมที่เล่นกันเกือบทุกประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1926 ซึ่งมีการจัดทัวร์นาเมนต์ครั้งแรก เทนนิสจึงได้กลายเป็นกีฬาอาชีพ เทนนิสได้ถูกบรรจุในกีฬาโอลิมปิก ณ โซล ปี ค.ศ.1988
7. ว่ายน้ำ (Swimming)
มันเป็นกีฬาที่ง่ายจะเรียนรู้ ที่ช่วยกระชับเรือนร่าง และสนุกได้ ในเวลาเดียวกัน
8. ยิมนาสติก (Gymnastics)
ไม่ใช่ทุกคนจะเล่นกีฬานี้ได้ เพราะต้องการความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของร่างกายอย่างมาก คนส่วนมากจึงสนใจที่จะชมมากกว่า
9. คริกเก็ต (Cricket)
คริกเก็ตเกิดในประเทศอังกฤษ แต่ผู้คนในอินเดียจะละทิ้งงานทุกอย่าง เมื่อมีการแข่งขันที่ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์
10. ฮอกกี้ (Hockey)
ถึงแม้ว่ากีฬานี้ไม่ได้รับความนิยมเหมือนอดีต แต่ยังมีคนดูประมาณ 2 พันล้าน ในแต่ละปี เป็นกีฬาแข่งขันกันระหว่าง 2 ทีม มีผู้เล่นฝ่ายละ 11 คน โดยการตีลูกบอล ที่มีลักษณะกลม แข็ง ที่เรียกว่า ลูกพัค (puck) ให้เข้าโกลด์ตะข่ายของฝั่งตรงกันข้าม โดยจะให้ลูกบอลถูกส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายไม่ได้ เว้นผู้รักษาประตูที่มีสิทธิใช้เท้าเตะและมือปัดลูกบอลได้แต่ก็เฉพาะในเขตที่ยิงประตูเท่านั้น การยิงประตูที่ถือว่าได้ประตูต้องเป็นการยิงจากภายในเขตประตู คือภายในเขต 16 หลา โดยมีเส้นโค้งเป็นเครื่องหมาย เรียกกันเป็นที่เข้าใจว่าหัวกะโหลก คือจะต้องพาลูกเข้าไปยิงประตูภายในหัวกะโหลกนั้น
1. ฟุตบอล (Soccer)
คนประมาณ 4 พันล้านคน รักกีฬานี้ และการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์มีผู้ชมสูงสุดทุกปีฟุตบอล หรือ ซอกเกอร์ เป็นกีฬาประเภททีมที่เล่นระหว่างสองทีมโดยแต่ละทีมมีผู้เล่น11คน โดยใช้ลูกบอล เป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายว่าเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก
โดยจะเล่นในสนามหญ้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือ สนามหญ้าเทียม โดยมีประตูอยู่กึ่งกลางที่ปลายสนามทั้งสองฝั่ง เป้าหมายคือทำคะแนนโดยพาลูกฟุตบอลให้เข้าไปยังประตูของฝ่ายตรงข้าม ในการเล่นทั่วไปผู้รักษาประตูจะเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่สามารถใช้มือหรือแขนกับลูกฟุตบอลได้ ส่วนผู้เล่นอื่นๆจะใช้เท้าในการเตะลูกฟุตบอลไปยังตำแหน่งที่ต้องการ บางครั้งอาจใช้ลำตัว หรือ ศีรษะ เพื่อสกัดลูกฟุตบอลที่ลอยอยู่กลางอากาศ โดยทีมที่พาลูกฟุตบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามได้มากกว่าจะเป็นผู้ชนะ ถ้าคะแนนเท่ากันให้ถือว่าเสมอ แต่ในบางเกมที่เสมอกันในช่วงเวลาปกติแล้วต้องการหาผู้ชนะจึงต้องมีการต่อเวลาพิเศษ และ/หรือยิงลูกโทษขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของรายการแข่งขันนั้นๆ
โดยกฎกติกาการเล่นสมัยใหม่จะถูกรวบรวมขึ้นในประเทศอังกฤษ โดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ในปีพ.ศ. 2406 ได้กำเนิดLaws of the Gameเพื่อเป็นแนวทางกติกาการเล่นในปัจจุบัน ฟุตบอลในระดับนานาชาติจะถูกวางระเบียบโดยฟีฟ่า ซึ่งรายการแข่งขันที่มีเกียรติสูงสุดในระดับนานาชาติคือการแข่งขันฟุตบอลโลกซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี
2. วอลเลย์บอล (Volleyball)
คนทั้งเล่น หรือดู มากกว่า 900 ล้านคน วอลเลย์บอลชายหาดเป็นที่นิยมมาก และเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ผิวเป็นสีแทนวอลเลย์บอล หรือตามคำออกเสียง วอลลีย์บอล เป็นกีฬาที่แข่งขันกันระหว่าง 2 ทีม ทีมละ 6 คน รวมตัวสำรอง 1 คน โดยแบ่งเขตจากกันด้วยเน็ตสูง การทำคะแนนจากลูกบอลที่ตกในเขตแดนของฝ่ายตรงกันข้าม
3. บาสเกตบอล (Basketball)
เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น และถ้าคุณตัวสูงก็จะได้เปรียบ แต่ก็ไม่จำเป็นและบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่เล่นในร่มเป็นหลัก สนามที่ใช้เล่นมีขนาดค่อนข้างเล็ก คะแนนจะได้จากการโยนลูกเข้าห่วงจากด้านบน (ชู้ต, shoot) ทีมที่มีคะแนนมากกว่าในตอนจบเกมจะเป็นฝ่ายชนะ สามารถนำพาลูกโดยการกระเด้งกับพื้น (เลี้ยงลูก, dribble) หรือส่งลูกกันระหว่างเพื่อนร่วมทีม เกมจะห้ามการกระทบกระแทกที่ทำให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ (ฟาวล์, foul) และมีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการครองบอล
4. รักบี้ (Rugby)
รักบี้เป็นที่นิยมมากในอังกฤษ และเป็นหนึ่งในกีฬาหนัก (แรง)ที่สุด ในโลก ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง เป็นกีฬาชนิดหนึ่งถือกำเนิดขึ้นจากโรงเรียนรักบี้ (Rugby School) ในเมืองรักบี้ ในเขตวอร์วิกเชียร์ ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นจาก ในปี ค.ศ. 1826 ขณะนั้นเป็นการแข่งขันฟุตบอล ภายในของโรงเรียนรักบี้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เมืองรักบี้ ประเทศอังกฤษ ผู้เล่นคนหนึ่งชื่อ วิลเลี่ยม เวบบ์ เอลลิส (William Webb Ellis) ได้ทำผิดกติกาการแข่งขันที่วางไว้ โดยวิ่งอุ้มลูกบอลซึ่งตัวเขาเองไม่ได้เป็นผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู และได้วิ่งอุ้มลูกบอลไปจนถึงเส้นประตูฝ่ายตรงข้าม เขาจะจงใจหรือไม่ก็ตามแต่ แต่การเล่นที่นอกลู่นอกทางของเขาได้เป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลาย ในหมู่ผู้เล่นและผู้ดูจนแพร่กระจายไปตามโรงเรียนต่างๆในอังกฤษ โดยเฉพาะในหมู่นักเรียนของโรงเรียนเคมบริดจ์ ได้นำเอาวิธีการเล่นของ นายอีลลีส ไปจัดการแข่งขันโดยเรียกชื่อเกมชนิดใหม่นี้ว่า รักบี้เกมส์ (Rugby Games) ภายหลังจากนั้นก็เป็นที่นิยมเล่นกันมากขึ้น ทั้งได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขการเล่นเรื่อยมาในประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1823 จึงถือได้ว่า รักบี้ฟุตบอลปกติอาจทำแต้มด้วยการวางทรัยหรือเตะ
5. กีฬาทางน้ำ (Water Sports)
กีฬาดำน้ำ เจ็ทสกี และอื่น ๆ เพราะเป็นกีฬาที่สนุกสนานและน่าตื่นเต้น
6. เทนนิส (Tennis)
หลายคนรู้สึกว่าเทนนิสน่าเบื่อมากในการดู แต่คน 1 พันล้านคน ชอบดูการแข่งขันเช่น วิมเบิลดัน และ French Open ถือเป็นกีฬาของผู้ดี และสง่างาม จึงเป็นที่นิยมในประเทศอเมริกา และยุโรปเทนนิส (Tennis) เป็นกีฬาที่เล่นในร่มหรือกลางแจ้ง แบ่งเป็น 2 ฝ่ายแข่งกัน โดยมีผู้เล่นในประเภทเดี่ยวฝ่ายละ 1 คน และผู้เล่นในประเภทคู่ฝ่ายละ 2 คน ใช้ไม้เทนนิสตีส่งลูกไปมาเหนือตาข่ายภายในเขตที่กำหนด โดยพยายามตีลูกให้ลงในแดนคู่แข่ง จนคู่แข่งไม่สามารถตีลูกกลับมาลงในแดนของเราได้
เทนนิสเป็นเกมกีฬาชนิดหนึ่งซึ่งใช้ไม้แร็กเก็ต ถือกำเนิดในยุโรปช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ช่วงแรกๆนั้นเทนนิสได้แพร่ขยายไปยังกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นสูง แท้จริงแล้วเทนนิสเป็นกีฬาสากลและเป็นเกมที่เล่นกันเกือบทุกประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1926 ซึ่งมีการจัดทัวร์นาเมนต์ครั้งแรก เทนนิสจึงได้กลายเป็นกีฬาอาชีพ เทนนิสได้ถูกบรรจุในกีฬาโอลิมปิก ณ โซล ปี ค.ศ.1988
7. ว่ายน้ำ (Swimming)
มันเป็นกีฬาที่ง่ายจะเรียนรู้ ที่ช่วยกระชับเรือนร่าง และสนุกได้ ในเวลาเดียวกัน
8. ยิมนาสติก (Gymnastics)
ไม่ใช่ทุกคนจะเล่นกีฬานี้ได้ เพราะต้องการความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของร่างกายอย่างมาก คนส่วนมากจึงสนใจที่จะชมมากกว่า
9. คริกเก็ต (Cricket)
คริกเก็ตเกิดในประเทศอังกฤษ แต่ผู้คนในอินเดียจะละทิ้งงานทุกอย่าง เมื่อมีการแข่งขันที่ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์
10. ฮอกกี้ (Hockey)
ถึงแม้ว่ากีฬานี้ไม่ได้รับความนิยมเหมือนอดีต แต่ยังมีคนดูประมาณ 2 พันล้าน ในแต่ละปี เป็นกีฬาแข่งขันกันระหว่าง 2 ทีม มีผู้เล่นฝ่ายละ 11 คน โดยการตีลูกบอล ที่มีลักษณะกลม แข็ง ที่เรียกว่า ลูกพัค (puck) ให้เข้าโกลด์ตะข่ายของฝั่งตรงกันข้าม โดยจะให้ลูกบอลถูกส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายไม่ได้ เว้นผู้รักษาประตูที่มีสิทธิใช้เท้าเตะและมือปัดลูกบอลได้แต่ก็เฉพาะในเขตที่ยิงประตูเท่านั้น การยิงประตูที่ถือว่าได้ประตูต้องเป็นการยิงจากภายในเขตประตู คือภายในเขต 16 หลา โดยมีเส้นโค้งเป็นเครื่องหมาย เรียกกันเป็นที่เข้าใจว่าหัวกะโหลก คือจะต้องพาลูกเข้าไปยิงประตูภายในหัวกะโหลกนั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น