วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559

ความจริงเกี่ยวกับแซลมอลที่คุณยังไม่รู้









แซลมอน (Salmon) เป็นปลาทะเลที่มีวงจรชีวิตอยู่ในน้ำจืด เนื่องจากจะต้องว่ายน้ำเข้ามายังแม่น้ำเพื่อวางไข่และผสมพันธุ์ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว โดยจะเลือกแหล่งน้ำที่มีปริมาณออกซิเจนสูงเพื่อให้ไข่นั้นมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดี โดยในช่วงฤดูผสมพันธุ์นั้นตัวเมียจะว่ายทวนน้ำเข้ามาเพื่อขุดรังที่พื้นโดยใช้หางของตัวเองเป็นเครื่องมือในการขุด จากนั้นจะวางไข่ลงไปในหลุมเพื่อรอให้ตัวผู้มาปล่อยเชื้ออสุจิปฏิสนธิกับไข่ หลังจากนั้นจะใช้หางของตัวเองกลบไข่เพื่อไม่ให้กระแสน้ำไหลพัดพาไป


การเจริญของแซลมอนจะมีอยู่ 3 ระยะได้แก่ Fry ลูกอ่อนที่มีขนาดเล็ก, Parr ลูกปลาแซลมอนที่มีแถบสีดำอยู่ข้างลำตัว และ Smolts ลูกปลาแซลมอนในวัยที่จะออกจากแหล่งน้ำจืดและมุ่งสู่น้ำทะเล


ลูกแซลมอนที่ฟักตัวออกจากไข่ในระยะแรกจะทำความคุ้นเคยและใช้ชีวิตอยู่กับกระแสน้ำจืดสักพัก ก่อนที่จะรวมตัวกันว่ายคืนกลับสู่ท้องทะเลในช่วงฤดูร้อน เพื่อหาแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์กว่าและรอวันที่จะกลับมาวางไข่อีกครั้งเพื่อโตเต็มวัย



นักวิทยาศาสตร์เคยทำวิจัยเกี่ยวกับปลาแซลมอนพบว่ามีปลาแซลมอนเพียงประมาณ 10% เท่านั้นที่กลับมาวางไข่ยังแหล่งน้ำจืดที่เดิม ส่วนที่เหลือมักจะสูญหายในทะเลโดยไม่ทราบสาเหตุ ปลาแซลมอนจัดว่าเป็นปลาที่มีความจำกลิ่นดีมากๆ เมื่อมันเจริญเติบโตจนเข้าสู่ช่วงฤดูผสมพันธุ์ได้ มันจะกลับไปวางไข่ในแหล่งน้ำที่เดิมที่ๆ มันเคยถูกฟักตัวโดยอาศัยการจำกลิ่นตั้งแต่ตอนที่มันเกิดมา สารประกอบของกลิ่นนั้นเป็น สารอินทรีย์ระเหย (volatile organic substance) และคุณสมบัติทางเคมียังไม่ทราบแน่ชัด ขณะนี้ยังไม่เข้าใจถ่องแท้ว่า ปลาแซลมอนหาทางมายังปากน้ำได้อย่างไรโดยไม่มีเครื่องหมายใดๆ ในการนำทางมาจากทะเล การทดลองล่าสุดได้ให้ข้อคิดว่า ปลาตัวเต็มวัยได้รับการชักนำจากปรากฏการบนท้องฟ้าเช่น มีดวงดาวเป็นเครื่องนำทางหรือทิศทางหรือตำแหน่งของดวงอาทิตย์เป็นต้นในกรณีนี้ปลาแซลมอนจะมีความสามารถในการจับเวลาเสมือนหนึ่งเป็น นาฬิกาชีวภาพ (biological clock) ดังที่พบในสิ่งมีชิวิตอื่นๆ


ลักษณะของแซลมอน
โดยทั่วไปตามลำตัวจะมีสีเงินแวววาว มีจุดที่บริเวณด้านบน บางชนิดอาจมีสีแดงบริเวณด้านข้างหรือท้องแล้วแต่สายพันธุ์ โดยทั่วไปแล้วปลาแซลมอนจะมีทั้งหมด 5 สายพันธุ์ ดังนี้
1. Chinook Salmon มีขนาดใหญ่ที่สุด มีจุดสีดำตามบริเวณ สีข้างด้านบน และหาง จะโตเต็มที่เมื่ออายุได้ 4 ปี
2. Sockeye Salmon เป็นปลา Salmon ชนิดที่มีรสชาติอร่อยที่สุด และราคาแพงที่สุดขนาด ไม่ใหญ่มาก
3. Pink Salmon ลักษณะที่โดดเด่นคือ จะมีกระดูกสันหลังที่โค้งงอมากกว่าซัลมอนชนิดอื่นและมีขนาดเล็กมีอายุเพียง 2 ปี
4. Chum Salmon มีลักษณะคล้าย Pink Salmon แต่ขนาดจะใหญ่กว่ามีลักษณะเหมือนกับสุนัขและมีขนาดใหญ่ใช้ขับไล่ตัวผู้ตัวอื่นในการหาคู่
5. Coho Salmon มีขนาดปานกลาง และลักษณะจะคล้ายกับปลา Chinook Salmon แต่จะมีขนาดเล็กกว่าผิวมีสีเงิน สีเงินนี้จะดึงดูดให้มัน เป็นเหยื่อของปลา Anglers


ปลาแซลมอนที่ขายกัน มีทั้งที่เป็นปลาจับจากทะเลธรรมชาติ และที่เป็นปลาเลี้ยงในฟาร์มเปิดในทะเลอีกทีหนึ่ง ปลาจับนั้นมีราคาแพงกว่าปลาเลี้ยงมาก ๆ ๆ แต่ก็มีรสชาติดีกว่าด้วย เพราะสามารถว่ายน้ำได้เป็นระยะทางไกลจึงมีไขมันในเนื้อไม่มากเท่าปลาเลี้ยง

                 การเพาะเลี้ยงปลาแซลมอนนั้นมีในหลายประเทศทางยุโรปเหนือ ซึ่งมีมาตรฐานการควบคุมการเลี้ยงตามกฎของอียูให้ออกมาใกล้เคียงกับธรรมชาติ ถูกตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎอียูทุก ๆ อย่าง รวมถึงการควบคุมการใช้ยาปฏิชีวนะและสารเคมีต่าง ๆ ด้วย (ดูรูปประกอบ) ซึ่งข้อดีของการเพาะเลี้ยงก็คือลดการทำลายพันธุ์ปลาตามธรรมชาติ (ขณะที่ผมกลับห่วงปลาทูมากกว่า เพราะเราจับจากธรรมชาติกันอย่างเดียว)

                 อาหารที่ใช้เลี้ยงปลาแซลมอนก็คล้าย ๆ กับอาหารสัตว์น้ำอื่น ๆ ไม่ได้ใส่สารอะไรที่อันตราย อย่างกรณีของสาร astaxanthin และ canthaxanthin ที่พูดถึงในบทความนั้น ก็กลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ แคโรทีนอยด์ อย่างที่เรากินในแครอท ฟักทอง สารพวกนี้สกัดมาจากสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในธรรมชาติ (สาหร่าย ยีสต์ เปลือกกุ้งปู) ช่วยทำให้เนื้อของปลามีสีส้มมากขึ้น และไม่ได้ก่อมะเร็งหรือเป็นอันตรายต่อการบริโภค

                 บทความต่างประเทศที่เค้าอ้างถึงนั้น พบว่าน่าจะมาจากวารสาร The ecologist ที่พูดถึงเรื่องปลาแซลมอนก็จริง แต่เป็นเรื่องไวรัส ISA ที่แพร่จากฟาร์มเลี้ยงไปสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้ปลาธรรมชาติติดเชื่อไปด้วย แต่ไวรัสนี้ไม่ได้เป็นอันตรายกับคน ... จริง ๆ แล้ว บทความใน The ecologist ฉบับอื่น ๆ ได้พูดถึงผลกระทบของฟาร์มปลาต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ได้พูดถึงเรื่องความเสี่ยงโรคมะเร็ง



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น